Saphan Siam

ทุกสิ่งใหม่

เมื่อค่ำคืนอันยาวนานของเราจะสิ้นสุดลง

เราอาศัยอยู่ในโลกที่ในไม่ช้าทุกสิ่งที่ “ใหม่” จะกลายเป็นของเก่า  รถคันใหม่จะมีรอยขีดข่วนและขึ้นสนิม รองเท้าคู่ใหม่ก็จะถูกใช้จนขาด ขนมปังก้อนใหม่ก็จะบูด สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในวันนี้จะล้าสมัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ของเล่นใหม่จะถูกเขี่ยตกกระป๋องไปอยู่ในกล่องบริจาคหรือไม่ก็ถังขยะในที่สุด  ผู้บริโภคยังคงเรียกร้องสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดและกำลังเป็นที่นิยมโดยตระหนักว่าไอเทมใหม่ล่าสุดชิ้นนั้นจะหมดยุคของมันไปในไม่ช้า  เราจ่ายเงินซื้อประกันและขยายระยะประกันสินค้าเพื่อปกป้องการลงทุนของเราและป้องกันการสูญหาย

พระคัมภีร์นำเสนอการประเมินโลกของเราและชีวิตที่ฝั่งตะวันออกของสวนเอเดนของเราอย่างมีสติ นั่นคือ แมลงกัดกินและสนิมทำลาย โจรงัดแงะเข้าไปขโมยได้ ทุกสิ่งเป็นทาสของความเสื่อมโทรม เรามาจากธุลีดินและจะต้องกลับกลายเป็นธุลีดิน (ปฐมกาล 3:19; สดุดี 90:3; ปัญญาจารย์ 3:20; มัทธิว 6:19; โรม 8:21) กระนั้น ตามพระสัญญาของพระเจ้า เราก็รอคอยโลกใหม่ด้วย คือโลก “ซึ่งเป็นที่พำนักของความชอบธรรม” (2 เปโตร 3:13)

ณ จุดสูงสุดหรือจุดจบของคำสอนแห่งพระคัมภีร์ ผู้เผยพระวจนะยอห์นได้เห็น “ฟ้าใหม่และโลกใหม่” และ “เยรูซาเล็มใหม่” และได้ยินพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ตรัสว่า “เรากำลังสร้างสรรพสิ่งขึ้นใหม่” (วิวรณ์ 21:1-5) ข้อความเหล่านี้ถูกล้วงลึกเอามาจากแหล่งของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์เดิม อย่างเช่น อิสยาห์ 43:18-19 และ 65:17-19  พระธรรมวิวรณ์ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าฟ้าสวรรค์เก่าและโลกเก่าจะหลีกทางให้กับของใหม่อย่างไร แทนที่จะเป็นอย่างนั้น คำพยากรณ์นี้กลับมุ่งความสนใจไปที่สภาพความเป็นจริงแห่งพระประสงค์ในการสร้างขึ้นใหม่ การฟื้นฟูขึ้นใหม่ และการแก้ไขทุกสิ่งขึ้นใหม่ของพระเจ้าพระผู้สร้าง

สังเกตว่าพระเจ้าไม่ได้เพียงแค่ทรงสร้างสิ่งใหม่แทนสิ่งเก่าที่แตกสลายและหมดสมัยแล้วเท่านั้น แต่ทรงทำให้ทุกสิ่งเป็นของใหม่ทั้งหมด  พระสัญญาแห่งการทรงสร้างใหม่นี้อยู่เหนือประเภทปัจจุบันของความใหม่ชั่วคราวของเรา โดยการเปิดเผยความใหม่ประเภทใหม่ที่จะไม่มีวันเสื่อมสภาพหรือผุพังเลย  พระองค์ผู้ทรงเป็นปฐมและอวสานทรงทำให้ทุกสิ่งเป็นสิ่งใหม่และคงความใหม่อยู่เสมอ

ความทุกข์ที่จะสิ้นสุดลง

จงพิจารณาหลายๆ แง่มุมของการทรงสร้างใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้เพื่อเสริมกำลังความตั้งใจในการที่คุณจะอดทนต่อปัญหาต่างๆ ของโลก ในขณะที่เราใฝ่หา “บ้านเมืองที่ดีกว่าคือเมืองสวรรค์” (ฮีบรู 11:16) 

ไม่มีปัญหาอีกต่อไป

การเน้นถึง ของ “ใหม่” สี่อย่างในวิวรณ์ 21:1-5 เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างกับ ของ “เดิม” และของ “เก่า” ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้วและจะ “ไม่มี” อีกต่อไป  ปัญหาเก่าๆ เหล่านี้ ได้แก่ ความตาย การคร่ำครวญ การร่ำไห้ และความเจ็บปวด (21:4) และรวมถึงสภาพความเป็นจริงที่เป็นสากลต่างๆ ของมนุษยชาติหลังจากที่บาปและความตายได้เข้ามาในโลก ในปฐมกาล บทที่ 3  การมาของสิ่งใหม่นี้ทำให้พระสัญญาแห่งพันธสัญญาเดิมอย่างอิสยาห์ 25:8 สำเร็จ คือ “พระองค์จะทรงกลืนความตายไปชั่วนิรันดร์ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงซับหยาดน้ำตาจากทุกใบหน้า และจะทรงขจัดความอัปยศอดสูของประชากรของพระองค์ออกไปจากแผ่นดินโลก องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น”

ไม่มีการสาปแช่งอีกต่อไป

ยิ่งกว่านั้น จะไม่มี “การสาปแช่งใดๆ ” อีกต่อไปในการทรงสร้างใหม่ (วิวรณ์ 22:3 TNCV) พระธรรมข้อนี้พูดเป็นนัยๆ ถึงเศคาริยาห์ 14:11 (THA-ERV) “ประชาชนจะอาศัยอยู่ที่นั่น และมันจะไม่ถูกสาปแช่งให้ถูกทำลายอีกต่อไป และเยรูซาเล็มก็จะอยู่อย่างปลอดภัย” เศคาริยาห์ 14:9-12 เน้นให้เห็นความปลอดภัยของชนชาติของพระเจ้าเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกษัตริย์เหนือแผ่นดินโลกและทำลายศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์  วิวรณ์ บทที่ 22 เชื่อมโยงการปลดคำสาปแช่งอย่างใกล้ชิดกับการสามารถเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตได้อีกครั้งของผู้เชื่อ ซึ่งหมายถึงชีวิตนิรันดร์ในการมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า  ใบของต้นไม้นั้นใช้ “รักษาบรรดาประชาชาติให้หาย” คือบรรดาประชาชาติที่จะดำเนินอยู่ในแสงสว่างของดวงประทีปนี้และนำความโออ่าอลังการของตนเข้ามาในนครอันบริสุทธิ์นี้ (วิวรณ์ 21:24 และดูใน อิสยาห์ 60:3; เศคาริยาห์ 14:16) จะไม่มีการสาปแช่งในนครเยรูซาเล็มใหม่เพราะพระเจ้าจะทรงพลิกกลับชะตากรรมของมนุษย์อย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่การล้มลงในบาปของเรา

ไม่มีภัยคุกคามอีกต่อไป

สุดท้าย ผู้เผยพระวจนะก็ได้เน้นให้เห็นถึงการไม่มีอยู่ของทะเลและกลางคืนในการทรงสร้างใหม่ (วิวรณ์ 21:1; 22:5) ไม่เหมือนกับความตาย นำ้ตา และการสาปแช่งที่กำลังจะผ่านพ้นไป ทะเลและความมืดปรากฏอยู่ในการทรงสร้างที่ดีแต่ดั้งเดิมของพระเจ้า (ปฐมกาล 1:5, 10) อย่างไรก็ตาม ในพระธรรมวิวรณ์ ทะเลก็ถูกเชื่อมโยงเข้ากับอำนาจแห่งความชั่วร้ายและความชั่วร้ายอยู่เสมอ  มารร้ายระบายความโกรธอย่างรุนแรงของมันลงบนแผ่นดินโลกและทะเล ซึ่งทั้งสองก็เป็นตัวแทนของการทรงสร้างครั้งแรก (วิวรณ์ 12:12) สัตว์ร้ายที่กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทพระเจ้าได้ขึ้นมาจากทะเลและรับอำนาจจากพญานาค (วิวรณ์ 13:1-2 และดูใน ดาเนียล 7:3)

“การไม่มีอยู่ของทะเลในการทรงสร้างใหม่เป็นเครื่องหมายว่า ในที่สุดแล้ว พระเจ้าจะทรงกำจัดทุกๆ ภัยคุกคามออกไปจากประชากรที่ได้รับการไถ่แล้วของพระองค์”

ทะเลยังเกี่ยวข้องกับความตาย (วิวรณ์ 20:13) และเกี่ยวข้องกับการทำการค้าขายซึ่งเป็นภาพของการบูชารูปเคารพของนครอันชั่วร้ายอีกด้วย (คือนครบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่) ซึ่งเลียนแบบการค้าอันทรงพลังของเมืองไทระในพระคัมภีร์เดิม (วิวรณ์ 18:17, 19 และดูใน เอเศเคียล 26:27) การอ้างอิงถึงทะเลของยอห์นอาจทำให้นึกถึงพระธรรมอพยพ เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแยกน้ำออกเพื่อให้คนอิสราเอลข้ามไปได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็เหวี่ยงกองทัพอียิปต์ลงทะเล (อพยพ 14:22,27) การไม่มีอยู่ของทะเลในการทรงสร้างใหม่เป็นเครื่องหมายว่า ในที่สุดแล้ว พระเจ้าจะทรงกำจัดทุกๆ ภัยคุกคามออกไปจากประชากรที่ได้รับการไถ่แล้วของพระองค์

ไม่มีกลางคืนอีกเลย

พระคัมภีร์มักจะเชื่อมโยง “กลางคืน” กับความมืด การคร่ำครวญ ความบาป และการลงโทษเสมอ  ตัวอย่างเช่น พระเจ้าได้ทรงส่งภัยพิบัติแห่งความมืดออกไปเพื่อทำลายอียิปต์และอาณาจักรของสัตว์ร้าย (อพยพ 10:21-22; วิวรณ์ 16:10) และมีความมืดมิดปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินตอนที่พระเยซูทรงถูกตรึง (มาระโก 15:33) ไม่มีกลางคืนอยู่ในนิมิตแห่งการทรงสร้างใหม่ของยอห์น เพราะพระเกียรติสิริอันเจิดจ้าของพระเจ้าและลูกแกะของพระเจ้า (พระเมษโปดก) จะส่องสว่างแก่นครเยรูซาเล็มใหม่จนไม่จำเป็นต้องมีความสว่างจากที่อื่นอีกต่อไป รวมถึงดวงอาทิตย์ด้วย (วิวรณ์ 21:23; 22:5 และดูใน อิสยาห์ 60:19) ยิ่งกว่านั้น การที่ประตูนครยังคงเปิดอยู่เป็นภาพของความปลอดภัยและความมั่นคงรอบด้าน เนื่องจากไม่มีศัตรูที่คอยคุกคามประชากรของพระเจ้าภายใต้การปกปิดของความมืดหลงเหลืออยู่เลย (วิวรณ์ 21:25; อิสยาห์ 60:11)

พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา

หัวใจของความหวังแห่งการทรงสร้างใหม่ คือการสถิตอยู่อย่างถาวรกับบรรดาวิสุทธิชนของพระเจ้า  ตลอดพระคัมภีร์เดิม พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงอยู่ท่ามกลางอิสราเอล เช่น

เราจะตั้งที่พำนักของเราท่ามกลางพวกเจ้า และเราจะไม่ชิงชังพวกเจ้า เราจะดำเนินอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เป็นพระเจ้าของเจ้า เจ้าจะเป็นประชากรของเรา (เลวีนิติ 26:11-12)

ที่พำนักของเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา (เอเศเคียล 37:27)

วิวรณ์ 21:3 ประกาศการสัมฤทธิ์ผลของพระสัญญานี้ ว่า “บัดนี้ที่ประทับของพระเจ้ามาอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะสถิตกับพวกเขา เขาทั้งหลายจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระเจ้าเองจะทรงอยู่กับพวกเขาและเป็นพระเจ้าของพวกเขา” วลีที่บอกว่า “(เขาทั้งหลายจะเป็น) ประชากรของพระองค์” (พหูพจน์) ดัดแปลงจากการอ้างอิงตามธรรมเนียมถึง “ประชากรของพระเจ้า” ที่อยู่ในรูปเอกพจน์ บางทีนี่อาจจะเป็นการสะท้อนคำพยากรณ์ในเศคาริยาห์ 2:11-12 ก็ได้ คือ “ชนชาติมากมายจะร่วมอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนั้น และจะเป็นประชากรของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า และพวกเจ้าจะรู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงใช้เรามาหาพวกเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้ยูดาห์เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนของพระองค์ในดินแดนบริสุทธิ์ และจะทรงเลือกสรรเยรูซาเล็มอีกครั้ง” 

“หัวใจของความหวังแห่งการทรงสร้างใหม่ คือการสถิตอยู่อย่างถาวรกับบรรดาวิสุทธิชนของพระเจ้า” 

ประเด็นคือการที่พระเจ้าจะไม่เพียงแค่ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางคนเชื้อชาติเดียวเท่านั้น แต่จะทรงอยู่ท่ามกลางประชากรทั้งหมดของพระองค์ที่ได้ถูกซื้อและถูกชำระแล้วโดยเลือดของลูกแกะของพระเจ้า เพื่อประกาศคำสรรเสริญพระองค์ตลอดไป (วิวรณ์ 5:9)  ในที่สุด “ที่ประทับ” หรือ “พลับพลา” ของพระเจ้าก็จะอยู่ท่ามกลางชนชาติแห่งพันธสัญญาของพระองค์อย่างสมบูรณ์ตลอดไป

วิวรณ์ 21:9-27 บรรยายถึงนครเยรูซาเล็มใหม่อันสง่างามในฐานะประชากรที่ได้รับการไถ่ของพระเจ้า (คือเจ้าสาวของลูกแกะของพระเจ้า) และในฐานะนครแห่งวิหารตลอดไป (คือที่ที่พระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางประชากรของพระองค์)  ภาพนิมิตนี้ทำให้คำพยากรณ์ในพระคัมภีร์เดิมเกี่ยวกับสง่าราศีของศิโยนที่ได้รับการไถ่แล้ว (อิสยาห์ บทที่ 60) และคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระวิหารของพระเจ้าในยุคสุดท้ายสำเร็จ (เอเสเคียล 40:48)

ในการทรงสร้างใหม่ พระเจ้าจะทรงสถิตอยู่ท่ามกลางคนของพระองค์ตลอดไป (วิวรณ์ 21:3; 22:1-5) พระเจ้าและลูกแกะของพระเจ้าจะเป็นผู้ประทานชีวิตนิรันดร์และแสงสว่างอย่างต่อเนื่องให้กับบรรดาวิสุทธิชนของพระองค์  ทุกภัยคุกคามและทุกอุปสรรคที่ขัดขวางการมีสามัคคีธรรมอันสมบูรณ์ระหว่างพระเจ้าและประชากรของพระองค์จะถูกกำจัดไป และเราจะเฝ้าดูพระพักตร์ของพระองค์และนมัสการพระองค์ในฐานะกษัตริย์ผู้เป็นปุโรหิตตลอดไป

ภาพตัวอย่างของสถานที่ที่น่าดึงดูดใจที่กำลังจะมาถึง

ภาพนิมิตของการทรงสร้างใหม่นี้เติมเต็มการใฝ่หาความรอดจากผลแห่งบาปของอาดัมครั้งสุดท้ายของเรา สำหรับที่พำนักถาวรนิรันดร์ในนครศักดิ์สิทธิ์ และสำหรับหน้าที่ที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าในฐานะปุโรหิตและผู้ปกครอง  ภาพของโลกที่ได้รับการฟื้นฟูของวิวรณ์ช่างน่าหลงใหลจริงๆ ไม่ใช่เพราะถนนทองคำหรือกำแพงที่ประดับประดาด้วยเพชรนิลจินดา แต่เป็นเพราะเราจะได้มี “สิ่งหนึ่ง” ที่ผู้เชื่อใฝ่หามาโดยตลอด นั่นคือ การได้อาศัยอยู่ในที่ประทับอันทรงราศีของพระเจ้า เพื่อชมความงามของพระองค์และแสวงหาพระองค์ในพระวิหารของพระองค์ที่จะปกคลุมทั่วทั้งเยรูซาเล็มใหม่ (สดุดี 27:4)

อย่างที่แอนดรู ปีเตอร์สัน ได้ร้องเพลงเอาไว้ว่า “คุณรู้สึกไหมว่าโลกกำลังแตกสลาย?…คุณรู้สึกไหมว่าเงานั้นมืดทึบกว่าเดิม?…คุณหวังเอาไว้หรือเปล่าว่าจะได้เห็นโลกถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด?” ใช่แล้ว เราก็หวังเช่นนั้น  หรืออย่างที่ไอแซค วัตต์ ได้ร้องเอาไว้ว่า เราอยากเห็น “พระพรของพระเจ้าหลั่งไหลไปไกลเท่าที่ที่การสาปแช่งถูกค้นพบ”

เราอยากเห็นอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงและพระประสงค์ของพระองค์สำเร็จบนโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์ (มัทธิว 6:10) เราใฝ่หาการไถ่ร่างกายของเราและการสร้างโลกนี้ขึ้นมาใหม่ (โรม 8:21-23) หนังสือวิวรณ์เสริมกำลังใจที่อ่อนล้าของเราด้วยพระสัญญาอันแน่นอนของพระเจ้าที่บอกว่า “เรากำลังสร้างทุกสิ่งขึ้นมาใหม่” เป็นของใหม่และจะใหม่อยู่ตลอดไป พร้อมด้วยการไม่มีบาปหรือความทุกข์โศกอีกเลย ไม่มีความตายหรือการเปื่อยเน่าอีกต่อไป
พระเจ้าจะทรงสร้างสิ่งทั้งปวงขึ้นมาใหม่แน่ และพระองค์ก็ได้ทรงเริ่มต้นงานแห่งการทรงสร้างใหม่นั้นแล้วในประชากรของพระองค์ “ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ การทรงสร้างใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งเก่าได้ล่วงไป สิ่งใหม่ได้เข้ามา!” (2 โครินธ์ 5:17) พระผู้สร้างของเราได้ทรงส่องแสงแห่งความรอดเข้ามาในใจเราเพื่อที่เราจะได้เห็นพระเกียรติสิริของพระองค์ในพระพักตร์ของพระคริสต์ และตอนนี้เราก็มีสมบัติชิ้นน้ีในภาชนะดินแล้ว (2โครินธ์ 4:6-7) พูดอีกอย่างคือ เราได้มีประสบการณ์ล่วงหน้ากับสง่าราศีของสวนเอเดนแห่งใหม่ท่ามกลางโลกปัจจุบันที่กำลังผ่านพ้นไป เป็นภาพตัวอย่างของสถานที่ที่น่าดึงดูดใจที่กำลังจะมาถึง  การสร้างหัวใจและชีวิตของประชากรของพระเจ้าขึ้นมาใหม่ในตอนนี้กำลังรอคอยการฟื้นฟูและการซ่อมแซมทุกสิ่งขึ้นใหม่อยู่  องค์พระผู้เป็นเจ้า  ขอทรงได้โปรดเร่งวันเวลาที่ความเชื่อของเราจะกลายเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาด้วยเถิด

โดย ไบรอัน แทบบ์


English Version: “All Things New: When Our Long Night Will End

Categories

Saphan Siam exists to be a bridge between the Thai church and biblical, timely and trusted resources.

Learn More

สองทางชีวิต

ติดตามเรา