Saphan Siam

ทำไมการลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิกของคริสตจักร จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด 

เมื่อสมาชิกในคริสตจักรลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกสมาชิกใหม่นั้น เป็นการตัดสินใจว่า ใครบ้างที่จะถืออำนาจสูงสุดในคริสตจักร และเมื่อเราลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิกใหม่มานั้น ถือเป็นวิธีสำคัญในการปกป้องข่าวประเสริฐ

โดย ไบรอัน พาร์คส์

หมายเหตุจากบรรณาธิการ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของฉบับที่จะเผยแพร่เร็วๆ นี้ของ Church Matters ในหัวข้อเรื่องระเบียบการปกครองของคริสตจักร

“คุณอยากให้ใคร เป็นผู้ถือรหัสปล่อยอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ?”

นี่เป็นคำถามที่มักถูกใช้เมื่อมีคนช่วยให้คุณตัดสินใจหากต้องเลือกผู้สมัครเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเป็นการพิจารณาว่า ใครที่จะเหมาะสมในการได้รับความไว้วางใจให้ใช้อำนาจนี้ได้

เมื่อสมาชิกในคริสตจักรลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกสมาชิกใหม่นั้น เป็นการตัดสินใจว่า ใครบ้างที่จะถืออำนาจสูงสุดในคริสตจักร และเมื่อเราลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิกใหม่มานั้น ถือเป็นวิธีสำคัญในการปกป้องข่าวประเสริฐ

ในบทความนี้ ผมจะไม่กล่าวถึงข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนระบบการปกครองของคริสตจักรที่สมาชิกมีอำนาจสูงสุด (Congregationalism) เช่น ในพระธรรมมัทธิว 18:15–20, 1 โครินธ์ 5:1–13 หรือกาลาเทีย 1 ที่พระเยซูทรงมอบอำนาจให้กับประชาชนในการตัดสินใจเรื่องสมาชิกภาพและหลักข้อเชื่อ แต่ผมกำลังเขียนถึงผู้ที่ยอมรับในระบบนี้อยู่แล้ว

เมื่อพิจารณาจากประเด็นนั้น การลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกสมาชิกใหม่มีส่วนช่วยปกป้องข่าวประเสริฐได้อย่างไร? พบกับคำตอบ 5 ข้อ ดังนี้  

1. การลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิก เป็นการประกาศความเชื่อที่แท้จริง 

คริสเตียนไม่ได้ถูกบังคับในการประกาศตัวว่าเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ในพระธรรมมัทธิว 16:18–19, 18:15–20 และ 28:18–20 พระเยซูทรงมอบหน้าที่ในการใช้ “กุญแจแห่งอาณาจักร” ให้แก่เปโตรและคริสตจักรที่สอนพระกิตติคุณ เพื่อยืนยันในการประกาศความเชื่อและการให้บัพติสแก่สมาชิกเข้าในคริสตจักรท้องถิ่น เมื่อเราลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัคร เรากำลังประกาศว่า “ใช่ พระกิตติคุณที่คุณเชื่อนั้นเป็นความจริง และการประกาศความเชื่อของคุณมีความน่าเชื่อถือ” ด้วยการลงคะแนนเสียงว่า “ใช่” ในแต่ละครั้ง ถือเป็นการรับรองและยืนยันในเรื่องพระกิตติคุณ

2. การลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิก เป็นการปกป้องผู้ประกาศพระกิตติคุณของคริสตจักรไปทั่วโลก

หากผู้ที่ถูกเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกได้รับการตรวจสอบโดยคณะผู้ปกครองของคริสตจักรแล้ว เราควรเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการปฐมนิเทศและการสัมภาษณ์มาแล้ว แต่ถ้าหากมีสมาชิกคนใดทราบว่าบุคคลนั้นมีชีวิตปกปิดบาปที่ไม่ได้กลับใจ เช่น เป็นเพื่อนร่วมงานที่เห็นพฤติกรรมของเขาในที่ทำงาน สมาชิกของคริสตจักรนั้นมีอำนาจในการคัดค้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ยังไม่เชื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้สมัคร ซึ่งอาจเป็นภัยต่อชื่อเสียงของคริสตจักรและพระคริสต์เอง เป็นการป้องกันการเผลอต้อนรับ “หมาป่าในคราบแกะ” เข้ามาภายในคริสตจักร อีกทั้งยังเป็นการปกป้องข่าวประเสริฐ

3. การลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิก ช่วยให้มั่นใจว่าคณะผู้ปกครองและมัคนายกเป็นผู้สัตย์ซื่อต่อพระกิตติคุณ

สมาชิกคริสตจักรควรพิจารณาถึงคำพยานชีวิต และ (ในกรณีสมัครเพื่อเป็นผู้ปกครอง) พิจารณาคำสอนของผู้สมัครก่อนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประเมินว่าบุคคลเหล่านั้นมีลักษณะตามผลของพระกิตติคุณ และมีภาระใจอย่างลึกซึ้งต่อข่าวประเสริฐหรือไม่ จะช่วยให้คริสตจักรมีผู้นำที่สามารถปกป้องและรักษาพระกิตติคุณไว้ได้

4. การลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิก เป็นการตัดสินว่าใครจะมีอำนาจในการออกกฏดำเนินวินัยของคริสตจักร

การตัดสมาชิกออกจากคริสตจักรเป็นขั้นตอนสุดท้ายและร้ายแรงที่สุดในการตักเตือนผู้ที่ยังคงอยู่ในบาปโดยไม่สำนึกผิด นี่เป็นภารกิจแห่งการช่วยกู้ที่ได้ตั้งขึ้นเพื่อรักษาจิตวิญญาณของบุคคลนั้น (1 โครินธ์ 5:5) แต่ตามระบบการปกครองของคริสตจักรที่สมาชิกมีอำนาจสูงสุด เราเข้าใจว่า คณะผู้ปกครองไม่ได้รับอำนาจให้ดำเนินการนี้เพียงลำพัง ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้ตกอยู่กับสมาชิกทุกคนของคริสตจักร (1 โครินธ์ 5:4) การเพิกเฉยต่อบาปที่ร้ายแรง บาปที่ตรวจสอบได้ และบาปที่ไม่ได้กลับใจ ถือเป็นการยอมลดคำมั่นสัญญาของคริสตจักรที่จะมีชีวิตที่บริสุทธิ์ และเป็นการปล่อยให้บุคคลหนึ่งจมอยู่ในบาปของตน สมาชิกทุกคนที่ร่วมลงคะแนนเสียงในกรณีการตัดสมาชิกออกจากคริสตจักรจึงกำลังทำหน้าที่ปกป้องพระกิตติคุณหรือเป็นการปล่อยให้ถูกโจมตีได้

5. การลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิก เป็นการเลือกว่าใครจะเป็นผู้ดูแลชีวิตฝ่ายวิญญาณของคุณเพื่อชีวิตที่สัตย์ซื่อต่อข่าวประเสริฐ 

เมื่อเราลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิกใหม่ เรากำลังมอบหมายความรับผิดชอบและคำอนุญาตให้บุคคลนั้นช่วยดูแลชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของเรา ผมอยากให้คนที่รู้จักและรักในพระกิตติคุณเป็นผู้ดูแลชีวิตของผม คนที่กลับใจจากบาปและมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยผมเดินในทางของพระคริสต์อย่างสัตย์ซื่อ เช่นเดียวกับที่ผมอยากได้ศัลยแพทย์ที่เข้าใจร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดีมาเป็นผู้ผ่าตัดให้ เช่นเดียวกัน ผมก็อยากให้คนที่รู้จักพระเยซูอย่างแท้จริงและรู้จักการดำเนินชีวิตแบบคริสเตียนมาเป็นผู้ดูแลของผม การลงคะแนนเสียงอย่างรอบคอบในการเลือกสมาชิกใหม่จะช่วยรักษาพระกิตติคุณในชีวิตของคุณเองอีกด้วย

บทสรุป

เมื่อบุคคลหนึ่งได้รับเลือกเข้ามาเป็นสมาชิก พวกเขาได้รับสิทธิอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมาย เราปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณ (เอเฟซัส 4:3) และดูแลกันและกันเพื่อประโยชน์ของกันและกัน (ฮีบรู 13:17) เราสัญญาที่จะประชุมกันอย่างสม่ำเสมอ (ฮีบรู 10:25) และรับฟังพระเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสกับเราผ่านพระวจนะ (2 ทิโมธี 4:2) เราถวายทรัพย์เพื่อสนับสนุนพันธกิจ (2 โครินธ์ 9:11) และอธิษฐานเผื่อตนเอง (1 ทิโมธี 2:8) ผู้นำรัฐบาล (1 ทิโมธี 2:1–2) และการเผยแพร่ข่าวประเสริฐไปทั่วโลก (เอเฟซัส 6:18–19) สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นการอธิบายเพิ่มเติมถึงสิ่งที่สมาชิกของคริสตจักรได้รับสิทธิอำนาจจากพระเจ้าและทรงมอบหมายให้ปฏิบัติ เมื่อพวกเขาดำเนินงานเหล่านี้อย่างสัตย์ซื่อ ข้อความแห่งพระกิตติคุณจะถูกประกาศท่ามกลางพวกเขา และชีวิตที่แตกต่างของพวกเขาจะยืนยันข้อความที่พวกเขาประกาศ คริสตจักรแบบนั้นกำลังปกป้องและรักษาพระกิตติคุณ

คุณจะเลือกใครเพื่อเคียงข้างคุณในการทำหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายนี้? ใครที่มีคุณสมบัติเหล่านี้? บุคคลที่คนทั้งคริสตจักรยืนยันได้ว่าเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์อย่างแท้จริง ผู้ที่กลับใจจากบาปและวางใจในพระคริสต์เพียงผู้เดียวว่าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด

สมาชิกทุกคนในคริสตจักรได้รับมอบสิทธิอำนาจและความรับผิดชอบในการบรรลุภารกิจสำคัญๆ เราจึงต้องระมัดระวังและฉลาดในการลงคะแนนเสียงให้กับสมาชิก ถือเป็นงานที่สำคัญที่สุดของคุณในฐานะสมาชิกของคริสตจักร

โดย ไบรอัน พาร์คส์

ไบรอัน พาร์คส์ เป็นศิษยาภิบาลอาวุโสของคริสตจักร Covenant Hope ในประเทศดูไบ

Original article: https://www.9marks.org/article/why-members-voting-on-members-is-their-most-important-job/

Categories

Saphan Siam exists to be a bridge between the Thai church and biblical, timely and trusted resources.

Learn More

สองทางชีวิต

ติดตามเรา