Saphan Siam
คำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลาง คือคำเทศนาที่ส่องแสงแห่งข่าวประเสริฐ

คำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลาง คือคำเทศนาที่ส่องแสงแห่งข่าวประเสริฐ

ภาพยนต์เรื่องนิทานเจ้าหญิงทะลุตำนาน (The Princess Bride) มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นภาพยนต์คลาสสิกหรือไม่? หากจะวัดกันด้วยวลีเด็ดซึ่งเป็นที่จดจำแล้วละก็หนังเรื่องนี้ใช่อย่างแน่นอน หนึ่งในประโยคคลาสสิกถูกพูดโดยตัวละครที่ชื่ออินิโก มอนโตย่าผู้ซึ่งสับสนโดยคำอุทานซ้ำๆ ของตัวละครที่ชื่อวิซซินี ว่า “ไม่น่าเชื่อ!” สุดท้ายมอนโตย่าก็โต้ตอบกลับไปว่า “นายเอาแต่พูดคำนี้อยู่ซ้ำๆ ชั้นไม่คิดว่ามันหมายถึงสิ่งที่นายคิดว่ามันหมายถึงหรอก”

เมื่อนึกถึงคำศัพท์ที่คนมักจะใช้เพื่ออธิบายถึงการเทศนา “ที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลาง” ผมก็ได้ยินเสียงอินิโก มอนโตย่าลอยมาแต่ไกล พวกเราเอาแต่ใช้คำๆ นี้และผมก็ไม่คิดว่ามันหมายถึงสิ่งที่เราคิดว่ามันหมายถึงหรอก เอาล่ะถ้าอย่างนั้นให้เรามาหาเหตุผลด้วยกันเถอะ

นี่ไม่ใช่การเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลาง
ลิสต์สั้นๆ ของการปฏิเสธเหล่านี้อาจช่วยสร้างขอบเขตให้กับความเข้าใจของเราได้

  • เราไม่ควรยอมรับว่าการเทศนานั้นมีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางเพียงเพราะคำเทศนานั้นมีพื้นฐานมาจากพระคัมภีร์ มันมีวิธีสอนพระคัมภีร์ในแบบที่จะนำไปสู่ความพินาศแม้จะเป็นการสอนแบบข้อต่อข้อหรือแม้จะเป็นตอนที่เกี่ยวกับพระเยซูเองก็ตาม พวกปุโรหิตและคนเลวีคือปรมาจารย์แห่งพระคัมภีร์ กระนั้นพระเยซูก็ทรงตำหนิพวกเขาที่ได้พลาดคำพยานของพระคัมภีร์เดิมซึ่งมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางไป (ยอห์น 5:39-40)
  • เราไม่ควรยอมรับว่าการเทศนานั้นมีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางเพียงเพราะคำเทศนานั้นปลอบโยนผู้คนด้วยพระคุณพระเจ้า พระคุณแห่งข่าวประเสริฐไม่เพียงปลอบโยนแต่ยังผลักดันด้วย พระคุณนั้นประกาศการเป็นผู้ชอบธรรมและชำระให้บริสุทธิ์ พระคุณนั้นทำให้เราหยั่งรากลงในความจริงแห่งข่าวประเสริฐและทำให้เราเติบโตขึ้นโดยกฏเกณฑ์ของพระเจ้า : เรายกโทษให้เจ้าแล้ว ไปเถอะและอย่าทำบาปอีก
  • เราไม่ควรยอมรับว่าการเทศนานั้นมีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางเพียงเพราะคำเทศนานั้นอ้างถึงความตายและการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูเพื่อคนบาป แน่นอนว่าความตายและการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูเพื่อคนบาปเป็นใจความสำคัญของข้อความแห่งข่าวประเสริฐ (1โครินธ์ 15:1-4) กระนั้น แน่นอนว่าการพยายามที่จะยัดข้อความนั้นลงไปตามหน้าที่ (เหมือนกับการขีดฆ่ารายการที่ต้องทำออกหรือการเพิ่มเชิงอรรถที่จำเป็นเข้าไป) ไม่ใช่การเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางที่เราหมายถึงแน่นอน

ภาพของความเป็นศูนย์กลางของข่าวประเสริฐ

คำว่า “เป็นศูนย์กลาง” คือหนึ่งในสาเหตุของความสับสน คำว่า “เป็นศูนย์กลาง” หมายความว่าอะไรกันแน่ในการประกาศข่าวดีของพระเยซู? ผมขอยกภาพๆ หนึ่งให้เห็นแล้วกัน เราควรต้องการให้ข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางในคำเทศนาของเราแบบเดียวกับที่ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะจักรวาล ในระบบสุริยะจักรวาลทุกอย่างหมุนรอบดวงอาทิตย์ ทุกอย่างได้รับแสงสว่างและความอบอุ่นจากมัน มวลขนาดใหญ่ของดวงอาทิตย์ทำให้เกิดแรงดึงดูดที่ยึดทั้งระบบไว้ด้วยกัน แสงสว่างและความร้อนของดวงอาทิตย์ส่องไปยังทุกๆ วัตถุที่อยู่ในวงโคจร

ควรจะเป็นเช่นนั้นกับข่าวประเสริฐที่อยู่ในคำเทศนาของเราด้วย พระคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดคือดวงอาทิตย์และพระคัมภีร์คือระบบสุริยะจักรวาล พระธรรมทุกตอน ทุกหลักคำสอน ทุกรูปแบบของชีวิตในพระคัมภีร์ ทุกสิ่งล้วนโคจรอยู่รอบงานแห่งความรอดของพระเยซู ชีวิต ความตาย และการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูส่องสว่างและให้ความอบอุ่นกับการเปิดเผยทั้งหมดของพระเจ้า เช่นเดียวกับผู้ฟังและตัวนักเทศน์เองด้วย ระดับที่คำเทศนาสะท้อนความเป็นจริงเหล่านี้คือระดับที่คำเทศนามีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ข่าวประเสริฐ

ในคำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลาง ข่าวประเสริฐเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ดึงทุกด้านและทุกแง่มุมของการเทศนาให้เข้ามาอยู่ในวงโคจร ข่าวประเสริฐส่องสว่างและให้ความร้อนกับทุกสิ่ง คำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางคือคำเทศนาที่ส่องแสงแห่งข่าวประเสริฐ

คำถามเพื่อการวินิจฉัย
การเปรียบเทียบการเทศนากับระบบสุริยะจักรวาลซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางเป็นประโยชน์และช่วยให้นึกภาพออก แต่เราต้องเข้าเรื่องการปฏิบัติให้มากกว่านี้ มีวิธีใดบ้างที่จะสามารถประเมินได้ว่าเราทำดีได้แค่ไหนในการทำให้คำเทศนามีศูนย์กลางอยู่ที่ข่าวประเสริฐ? ต่อไปนี้คือคำถามเพื่อการวินิจฉัยสามข้อที่ช่วยให้เราสามารถประเมินคำเทศนาของเราได้ คำถามเหล่านี้เป็นการยืนยันที่ตรงกันข้ามกับการปฏิเสธก่อนหน้านี้โดยแท้

(1) ข่าวประเสริฐได้ส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์เหนือพระธรรมตอนนี้ของคำเทศนาหรือไม่?

ประเด็นหลักของพระวจนะถูกประกาศผ่านมุมมองของข่าวประเสริฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทรงสร้าง เพศสภาพ พันธสัญญา พระวิหาร เครื่องบูชา ความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ การพิพากษา พระพร คำสาปแช่ง ความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม การอธิษฐาน การแต่งงาน การเป็นโสด ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ความยุติธรรม งานมิชชั่น พระบิดา พระวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดประเด็นหลักของพระคัมภีร์ตอนนั้นๆ ต้องถูกเทศนาด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนว่าความตายและการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูได้เติมเต็มสิ่งนี้ เปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น หรือเสริมกำลังในการทำสิ่งนี้ได้อย่างไร พูดง่ายๆ คือ คนจะต้องเห็นว่าใจความหลักของคำเทศนานี้เชื่อมโยงกับงานแห่งการช่วยให้รอดของพระเยซู ไม่มีคำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางจริงๆ อันไหนจะเป็นที่ยอมรับในธรรมศาลาของยิวหรือที่มัสยิด

(2) ข่าวประเสริฐได้ส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์เหนือผู้ฟังของคุณหรือไม่?
ข่าวประเสริฐไม่เพียงแต่ให้ความกระจ่างกับพระธรรมตอนนี้เท่านั้นแต่ยังให้ความกระจ่างกับชีวิตของผู้ฟังด้วย ความเป็นศูนย์กลางของข่าวประเสริฐส่องสว่างเหนือทั้งการตีความและการประยุกต์ใช้ ผู้คนถูกเรียกมาให้ใช้ชีวิตในการตอบสนองต่อข่าวประเสริฐ เนื่องจากพระคุณของพระเจ้าในพระคริสต์ ผู้ไม่เชื่อจึงถูกกระตุ้นให้กลับใจ เชื่อ และได้รับความรอด เนื่องจากพระคุณของพระเจ้าในพระคริสต์ผู้เชื่อจึงได้รับการหนุนใจให้สลัดตัวตนเก่าทิ้งไป รับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ และสวมตัวตนใหม่ แสงสว่างแห่งพระคุณซึ่งเปลี่ยนชีวิตทอแสงอยู่ในคำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางจริงๆ กฏเกณฑ์แห่งข่าวประเสริฐออกมาจากความจริงแห่งข่าวประเสริฐ ทั้งสองไม่ควรถูกละเลย

(3) ข่าวประเสริฐได้ส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์ในจิตใจของนักเทศน์หรือไม่?
การพูดถึงข่าวประเสริฐโดยที่ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของคำเทศนาก็ดีกว่าการไม่พูดถึงเลย อย่างไรก็ตาม ในคำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางจริงๆ นักเทศน์จะต้องถูกแตะต้องด้วยความจริงแห่งข่าวประเสริฐของพระธรรมตอนนั้นอย่างลึกซึ้งด้วยตัวเองก่อน เขาได้เห็นแสงสว่างนั้นและได้สัมผัสกับความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ด้วยตัวเขาเอง และดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ต่อหน้าที่ประชุมไม่ใช่ด้วยความรู้สึกที่เหมือนดาวพลูโตแต่เป็นเหมือนดาวพุธ เขาเพลิดเพลินยินดีในพระคริสต์ และดังนั้นนักเทศน์จึงมีความตั้งใจและอยากให้ที่ประชุมได้มาร่วมในความยินดีของเขา เขาจะประกาศข่าวประเสริฐไม่ใช่ในฐานะของข้อมูลสำคัญที่นักข่าวไม่ยอมเปิดเผยสักที แต่เหมือนกับการพาดหัวข้อข่าวหน้าหนึ่ง

ไม่น่าเชื่อ!
นี่คือการเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางที่ดีที่สุด คือ การเทศนาในแบบที่ข่าวประเสริฐส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์จากพระคัมภีร์ เหนือตัวผู้ฟัง และในตัวนักเทศน์ สิ่งเดียวที่ไม่น่าเชื่อก็คือการที่ความเป็นศูนย์กลางของข่าวประเสริฐจะถูกนิยามด้วยคำที่ด้อยกว่านั้นได้ ดังนั้นจงใคร่ครวญการปฏิเสธเหล่านั้น ลงมือวินิจฉัย และเรียนรู้ที่จะเทศนาข่าวประเสริฐเหมือนดั่งที่ดวงอาทิตย์ขึ้น “จากฟากหนึ่งแล้วโคจรไปยังอีกฟากหนึ่งของฟ้าสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดหลบซ่อนจากความร้อนของมันได้”(สดุดี 119:6) คำเทศนาที่มีข่าวประเสริฐเป็นศูนย์กลางคือคำเทศนาที่ส่องแสงแห่งข่าวประเสริฐ

โดย เดวิด คิง

Categories

Saphan Siam exists to be a bridge between the Thai church and biblical, timely and trusted resources.

Learn More

สองทางชีวิต

ติดตามเรา